การพัฒนาสินค้า และบริการ
บริษัทให้ความสำคัญและใส่ใจต่อกระบวนการผลิตสินค้า อย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างจริงจัง โดยปฏิบัติตามความต้องการของลูกค้า และข้อกำหนดตามหลักสากล รวมถึงมีการตรวจติดตามและประเมินผล เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ บริษัทได้จัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจลูกค้า โดยส่งให้ลูกค้าทุกรายประเมินความพึงพอใจทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัททุกชิ้น เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานระดับในสากล
เมื่อบริษัทได้รับวัตถุดิบจากผู้ขายที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจรับเข้าวัตถุดิบด้วยวิธีการที่มีมาตรฐาน และปฏิบัติโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง ก่อนที่จะนำวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิต ภายในกระบวนการผลิตบริษัทจัดให้มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าระหว่างการผลิตทุกขั้นตอน โดยใช้ทั้งการตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส ตรวจสอบด้วยเครื่องมือ และวิธีการทางห้องปฏิบัติการ เช่น ค่าสี ความหนา ตำแหน่งภาพ ความเหนียวของเนื้อฟิล์มและกลิ่น เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเรียบร้อยแล้ว บริษัทยังมีกระบวนการตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนการส่งสินค้าไปยังลูกค้าอีกด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพของสินค้า กระบวนการผลิต และการบริการให้เกิดประสิทธิภาพและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่อให้ทราบถึงประเด็นที่เป็นจุดเด่น และโอกาสในการปรับปรุงของบริษัทในมุมมองของลูกค้า บริษัทได้และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
|
เป้าหมาย |
การดำเนินงาน |
ผลการดำเนินงาน |
|
สัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์จาก Mono-material อย่างน้อยร้อยละ 2 ของสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด |
จัดทำเป้าหมายรายผลิตภัณฑ์ย่อย มีการติดตามยอดขายทุกเดือนเพื่อให้ยอดขายตรงตามที่กำหนด และมีการประชุมเพื่อติดตามและหาวิธีการแก้ไขหากยอดขายต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ |
ยอดขายผลิตภัณฑ์เป็นร้อยละ 2 ของสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากปีที่แล้ว |
|
จัดทำโครงการนวัตกรรมต่าง ๆ ในกระบวนการผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตให้ได้ 19 ล้านบาท |
ให้แต่ละหน่วยงานคิดค้นนวัตกรรมในกระบวนการผลิตในแต่ละส่วนงาน ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อเข้าไปประเมินผลและติดตามการทำงาน |
ลดค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 203 ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากกิจกรรมในการผลิตลดลง อย่างไรก็ตามมีการคิดมาตรการอื่น ๆ ขึ้นมาทดแทน |
ตัวอย่าง นวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อม
นวัตกรรมวัสดุรีไซเคิลจากขยะพลาสติกในครัวเรือน สู่พาเลทพลาสติกหมุนเวียนในคลังสินค้า
เป็นโครงการที่ดำเนินงานภายใต้กรอบแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติกยืดที่เกิดขึ้นในระดับครัวเรือน ผ่านกระบวนการพัฒนาและแปรรูปเป็นวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูงที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตพาเลทพลาสติก ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการจัดเก็บและขนย้ายสินค้าในคลังสินค้าอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อมของนวัตกรรมนี้ คือ การลดการหลุดรอดของขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อม การเพิ่มสัดส่วนการใช้วัสดุรีไซเคิลในกระบวนการผลิตเพื่อลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการนี้ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียวให้กับบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน อันจะนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ประโยชน์เชิงปริมาณต่อธุรกิจ
นวัตกรรมสามารถขยายผลเชิงพาณิชย์ โดยสร้างรายได้จากยอดขายเม็ดพลาสติก PCR-HD เกรดฉีดพาเลท
ประโยชน์เชิงปริมาณต่อสังคม
ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบผ่านการสร้างการรับรู้และความเข้าใจโดยโครงการวน เพื่อให้เกิดการคัดแยกขยะในครัวเรือนตั้งแต่ต้นทาง
ประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อม
- ลดปริมาณขยะพลาสติกยืดประเภท PE จากครัวเรือนได้มากกว่า 7 ตัน หรือเทียบเท่าถุงหูหิ้วมากกว่า 5.9 ล้านใบ
- ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล PCR-HD เกรดฉีดพาเลท เมื่อเทียบกับ การผลิตเม็ดวัตถุดิบใหม่ ได้มากกว่า 303 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
- ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์พาเลทพลาสติก PCR ได้มากกว่า 332 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ติดตามข่าวสาร : 