ผลิตฟิล์มลามิเนต ( Lamination Films )
ฟิล์มลามิเนต คืออะไร
Lamination Film หรือที่เราเรียกอีกอย่างว่า ฟิล์มลามิเนต เป็นการนำแผ่นฟิล์มพลาสติกหลายๆชั้น มาเคลือบเป็นแผ่นฟิล์มเดียว หรือเคลือบฟิล์มกับวัสดุอื่นๆ สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ฟิล์มชั้นในที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง ถูกนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมการผลิต บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน สำหรับสินค้า อุปโภคบริโภค (Flexible Packaging)
บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) ผลิตฟิล์มลามิเนตชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง ดังนั้น บริษัท จึงให้ความสำคัญกับความสะอาด ในการผลิตฟิล์มลามิเนตเป็นพิเศษ เพราะต้องใช้ฟิล์มลามิเนตในการประกบกับวัสดุ หรือ ฟิล์มชนิดอื่นๆ เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่มี อะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil) เป็นส่วนประกอบ
ลูกค้าฟิล์มลามิเนตของบริษัทส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในประเทศ ได้แก่ ผู้ประกอบการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนเพื่อสินค้าบริโภคและอุปโภค และผู้ประกอบการผลิตสินค้าบริโภคและอุปโภคต่างๆ เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น
สำหรับการใช้ชั้นฟิล์มลามิเนตมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ผลิต นอกจากฟิล์มลามิเนตจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยยงามให้กับตัวบรรจุภัณฑ์ได้อีกด้วย เพราะทำให้ลายพิมพ์ต่างๆสามารถยึดติดอยู่กับฟิล์มได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันรอยขีดช่วน น้ำ และความชื้นได้อีกด้วย
การเลือกฟิล์มชนิดต่างๆ เพื่อเข้ากระบวนการลามิเนต (Lamination)
สำหรับการเลือกฟิล์มสำหรับเข้ากระบวนการลามิเนต (lamination) จำเป็นต้องรู้ก่อนว่าบรรจุภัณฑ์ที่เราจะทำการผลิตนั้น นำไปใช้ในการบรรจุสินค้าประเภทใด และสินค้าดังกล่าว ต้องการคุณสมบัติใดของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตด้วยฟิล์มลามิเนตบ้าง เมื่อทราบปัจจัยดังกล่าวแล้ว เราจึงสามารถเลือกชนิดของฟิล์มที่เหมาะสม เพื่อเข้ากระบวนการทำฟิล์มลามิเนตไนกระบวนการต่อไป
ฟิล์ม Polyethylene (PE)
สำหรับฟิล์ม Polyethylene หรือ ที่เราเรียกว่า PE ในการผลิตบรรจุภัณฑ์จะใช้เป็นฟิล์มชั้นในสุด ซึ่งจะสัมผัสกับอาหารโดยตรง ฟิล์มที่ใช้ในกระบวนการผลิต ฟิล์มลามิเนต ส่วนใหญ่จะใช้ฟิล์ม LDPE และ และ ฟิล์ม LLDPE โดยมีคุณสมบัติ ยืดหยุ่น และยังสามารถใช้ในกระบวนการที่ต้องปิดผนึกด้วยความร้อนได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติป้อกันการกัดกร่อนจากสารเคมีและกรดบางประเภทได้ ส่วนมากนิยมนำมาผลิต บรรจุภัณฑ์ประเภท ถุงเย็น, ถุงซิป
ฟิล์ม Polypropylene (PP)
สำหรับฟิล์ม Polypropylene หรือ ที่เราเรียกว่า PP นิยมใช้ฟิล์ม CPP (Cast Polypropylene Film) และ ฟิล์ม BOPP (Biaxially Oriented Polypropylene Film) โดยมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของ ความใส ความมันวาว มีความเหนียว สามารถต้านทานต่อแรงดึง กันน้ำได้ดี และเนื้อผิวทำให้ไม่เกิด ไฟฟ้าสถิตย์ โดยการผลิตฟิล์มลามิเนต เพื่อทำบรรจุภัณฑ์นิยมใช้ ทั้ง 2 ฟิล์ม ควบคู่กัน โดยฟิล์ม CPP จะมีหน้าที่ป้องกันอาหารหรือสินค้าจากสีบนฟิล์ม BOPP ส่วนมากนิยมใช้ฟิล์มประเภทนี้ในการผลิต ซองบุหรี่ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการให้เห็นสินค้าภายใน
ฟิล์ม Polyester (PET)
นิยมใช้ฟิล์ม BOPET (Biaxially Oriented Polyethylene Terephthalate) ในการทำฟิล์มลามิเนต ตัวฟิล์มมีคุณสมบัติเงา ทนต่อการฉีกขาดและแรงกระแทก รักษารูปทรงได้ดีในอุณภูมิต่าง ทนความร้อนสูง สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ และสามารถป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดี ส่วนมากนำมาใช้ในการผลิตซองบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เช่น ซองขนมที่ต้องการรักษษาความกรุบกรอบของขนมขบเคี้ยวภายในบรรจุภัณฑ์
ฟิล์ม Nylon , Polyamide (PA)
สำหรับฟิล์มที่นิยมใช้ทำฟิล์มลามิเนตคือ ฟิล์ม BOPA (Biaxially Oriented Polyamide Film) มีคุณสมับัติต้านทานต่อการรั่วซึม สามารถทนได้ทั้งอุณภูมิ ร้อนและเย็น นอกจากนี้ยังมีความเหนียวเป็นพิเศษ นิยมนำมาใช้ทำ บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับอาหารแช่แข็ง ถุงข้าวสาร หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการการซีลแบบสูญญากาศ
ฟิล์ม Metalized
เป็นฟิล์มที่ทำให้ซองบรรจุภัณฑ์มีความเงา แวววาว เนื่องจากผ่านขั้นตอนการฉาบด้วยอลูมิเนียม (Aluminum) เหมาะสำหรับใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารได้ดี เนื่องจากมีคุณสมบัติ ช่วยป้องกันการซึมผ่านของก๊าซ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยยืดอายุสินค้าได้ดีกว่า ฟิล์มชนิดอื่นๆที่นำมาใช้ทำฟิล์มลามิเนต โดยส่วนมากนิยมนำไปทำ เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารที่ต้องการเก็บอาหารภายในให้อยู่ได้นาน เช่น ซองขนม ซองกาแฟสำเร็จรูป ซองกาแฟ 3 in 1
อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminum Foil)
สำหรับ อลูมิเนียมฟอยล์ วัสดุที่มีคุณสมบัติในการผลิตบรรจุภัณฑ์ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ ฟิล์มชนิดอื่นๆ ทำให้มีต้นทุนที่แพงขึ้นด้วย โดยอลูมิเนียมฟอยล์มีคุณสมบัติ ในการป้องกันก๊าซต่างๆ รวมไปถึงป้องกันการซึมผ่านของก๊าซ แสง และน้ำจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม จากคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้บรรจุภัณฑ์สามารถเก็นสินค้าที่อยู่ภายในได้ยาวนานกว่าฟิล์มชนิดอื่น โดยสินค้าที่มักใช้บรรจุภัณฑ์แบบอลูมิเนียมฟอยล์เป็นส่วนประกอบ ได้แก่ สินค้าจำพวก อาหาร ยา สินค้าอุโภคบริโภคที่เป็นทั้ง ของแข็ง ของเหลว นอกจากนี้ อลูมิเนียมฟอยล์ ที่ใช้ทำฟิล์มลามิเนตยังสามารถสร้างความเงาให้กับ บรรจุภัณฑ์ แบบเดียวเดียวกับฟิล์ม metalized อีกด้วย
สินค้าของคุณเหมาะกับฟิล์มลามิเนตแบบใด
ในชีวิตประจำวันเราสามารถพบเห็น บรรจุภัณฑ์ต่างๆที่ผลิตมาจากฟิล์มลามิเนตได้ทั่วไป ทั้งในห้างสรรสินค้าและร้านสะดวกซื้อ โดยมีความหลากหลายของชนิดของฟิล์มลามิเนต ที่แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติการใช้งานกับสินค้านั้นๆ เช่น
สินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นของเหลว เช่น ซองแชมพู, ซองครีม สินค้าจำพวกอาหารต่างๆ เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป (Ready to eat food), ขนมขบเคี้ยว, เบเกอรี่ สินค้าที่ต้องส่งออกไปยังต่างประเทศ และต้องการคงคุณภาพของสินค้านั้นไว้ในระยะเวลาที่ยาวนาน
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตสินค้ารายย่อยที่กำลังจะทำการผลิตบรรจุภัณฑ์ในแบรนด์ของตนเอง จะเลือกใช้วัสดุให้เหมาะกับสินค้า เราสรุปมาให้แล้วว่าสินค้าแต่ละประเภท ควรเลือกใช้ฟิล์มลามิเนตแบบไหน ดูได้ตามตารางด้านล่างได้เลย
| ชนิดของสินค้า | ตัวอย่างสินค้า | คุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับสินค้า | ประเภทของฟิล์มลามิเนต |
|---|---|---|---|
| สินค้าแช่แข็ง / สินค้าที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์แบบสูญญากาศ | - อาหารแช่แข็ง เช่น เนื้อสัตว์ ไส้กรอก - อาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) | - มีความเหนียว - สามารถใช้บรรจุแบบสูญญากาศได้ - ป้องกันการเข้าออกของก๊าซได้ดี - สามารถรักษาคุณสมบัติเดิมของอาหารไว้ได้ เช่น ความสด, กลิ่น, รส | 1.BOPP+Aluminum +LLDPE 2.PA+LLDPE |
| สินค้าประเภทผง | อาหารที่มาในรูปแบบ ผง ต่างๆ เช่น ครีมเทียม, กาแฟ, ผงซักฟอก, นมผง | - ป้องกันการเข้าออกของก๊าซได้ดี - สามารถกันความชื้น - สามารถป้องกันความร้อนและแสงได้ | 1.BOPET+Aluminum+LLDPE 2.BOPET+M-PET+LLDPE |
| สินค้าที่มีสถานะเป็นเหลว | - น้ำยาล้างจาน, น้ำยาปรับผ้านุ่ม - แชมพู, สบู่เหลว - สินค้าที่ต้องแช่เย็น | - มีความยืดหยุ่น ในทุกอุณหภูมิ - ฉีกขาดยาก - สามารถป้องกันการเข้าออกของก๊าซและน้ำ - ทนตอ่ความเป็นกรดและด่างได้ดี | 1.BOPET+M-PET+LLDPE 2.PA+LLDPE |
| อาหารจำพวกชนมขบเคี้ยวและเบเกอรี่ | - ขนมขบเคี้ยว ที่มีความกรุบกรอบชนิดต่างๆ - อาหารจำพวก เบเกอรี่ ที่ต้องให้เห็นสินค้าภายใน | - สามารถเก็ยรักษาคุณสมบัติเดิมของอาหารได้ เช่น กลิ่น, รส - สามารถรักษาสินค้า ให้ได้มีความกรอบ และสดใหม่ | 1.BOPP+M-CPP 2.BOPP+M-PET+CPP |
ติดตามข่าวสาร : 