Skip to main content

บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ยึดมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเอื้อต่อสุขภาวะที่ดีของพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน บริษัทมีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าบุคลากรคือกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ การเอาใจใส่ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานจึงเป็นมากกว่าภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือข้อกำหนดทางจริยธรรม แต่เป็นการลงทุนที่สร้างคุณค่าต่อประสิทธิผลการดำเนินงาน ศักยภาพในการแข่งขัน และการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว

บริษัทได้สร้างสรรค์และประยุกต์ใช้ระบบบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ โดยยึดหลักมาตรฐานสากล โดยบริษัทได้รับการรับรอง OHSAS 18001 ตั้งแต่ปี 2008 และต่อยอดด้วยการรับรอง ISO 45001:2018 ตั้งแต่ปี 2020 พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายคุ้มครองแรงงานและระเบียบที่เกี่ยวเนื่องอย่างเคร่งครัด เพื่อยับยั้งการเกิดอุบัติเหตุ ลดโอกาสการบาดเจ็บ ป้องกันการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน และบริหารจัดการปัจจัยเสี่ยงในทุกขั้นตอนการผลิตและการดำเนินธุรกิจ

สร้าง รักษา และปฏิบัติตามจิตสำนึกด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างจริงจัง

เพื่อลดความเสี่ยงของ การเจ็บป่วย  การเกิดอุบัติเหตุ เพื่อสุขภาพ

และคุณภาพชีวิตของบุคลากรทุกคน

นโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

            บริษัทตระหนักดีว่าความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พนักงานทุกคนพึงจะได้รับ พร้อมทั้งให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงจัดทำนโยบายลดความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ทั้งนี้ บริษัทได้ทบทวน ปรับปรุง การดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวทางการปฏิบัติให้สอดคล้องกับการดำเนินงานปัจจุบันของบริษัท โดยมีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ ตลอดจนสื่อสารความเข้าใจแก่พนักงานผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท ตามแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

  • บุคลากรทุกคนปฏิบัติตามระเบียบและต้องให้ความร่วมมือกับนโยบายและกิจกรรมทางด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยของบริษัท
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดของบริษัท
  • ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียโดยรอบ
  • สนับสนุนทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บและเจ็บป่วยที่เกิดจากการทำงานกับเครื่องจักรและสารเคมี
  • ส่งเสริมและสนับสนุนข้อมูลในการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของพนักงานทุกคน
  • สื่อสารเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงานและนโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้แก่ชุมชน รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน
  • มุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้แก่บุคลากรทุกระดับ
  • มุ่งเน้นที่จะลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการทำงานทั้งพนักงาน โดยควบคุมความเสี่ยงในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
  • มุ่งมั่นต่อการดำเนินกิจกรรม การให้คำปรึกษา และการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานรวมถึงตัวแทนปฏิบัติงาน

โครงสร้างการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

การกำกับดูแลด้านสุขภาวะและความปลอดภัยโดยคณะกรรมการบริษัท

บริษัทได้จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยมีคณะกรรมการและคณะทำงานในระดับต่างๆ ทำหน้าที่กำหนดทิศทาง กำกับติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างจริงจัง

คณะกรรมการและคณะทำงานที่รับผิดชอบ

บริษัทได้จัดตั้งโครงสร้างการกำกับดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีความเชื่อมโยงและรายงานผลอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย:

1. คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและให้ความเห็นชอบนโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในระดับสูงสุด รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานที่สำคัญผ่านการรับรายงานจากคณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล

2. คณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
ทำหน้าที่กำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัท รวมถึงประเด็นด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยรับรายงานสรุปผลการดำเนินงานทุกไตรมาสจากคณะทำงานบริหารความเสี่ยง ความยั่งยืน และบรรษัทภิบาล เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท

3. คณะกรรมการบริหาร
คณะกรรมการบริหารรับรายงานผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยทุกเดือน พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนงาน โครงการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้น

4. คณะทำงานบริหารความเสี่ยง ความยั่งยืน และบรรษัทภิบาล
คณะทำงานชุดนี้ทำหน้าที่ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล (ISO 45001, GRI Standards, FTSE4Good Index) รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการบริหารทุกเดือน และสรุปรายงานต่อคณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาลทุกไตรมาส

5. คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประชุมทุกเดือนภายใต้การกำกับดูแลของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ มีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ความปลอดภัย วิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ เสนอแนะมาตรการป้องกันและแก้ไข ร่วมพิจารณาแผนงานและงบประมาณด้านความปลอดภัย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ

6. ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานปฏิบัติการหลักที่รับผิดชอบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยโดยตรง โดยรายงานต่อประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและแผนงานด้านความปลอดภัยสู่การปฏิบัติจริง ดำเนินการประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่ทำงาน จัดการฝึกอบรม ดูแลอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) สืบสวนอุบัติเหตุและเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงจัดทำรายงานและเป็นเลขานุการคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)

การประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

บริษัทได้พัฒนากระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งโครงการที่กำลังดำเนินการและโครงการใหม่ โดยยึดหลักการให้แต่ละหน่วยงานประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง ภายใต้การกำกับดูแลและสนับสนุนจากฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

วัตถุประสงค์

  • ป้องกันอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน
  • ลดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและชุมชนโดยรอบ
  • สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
  • สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร

บริษัทดำเนินการประเมินความเสี่ยงโดยอิงตามมาตรฐาน ISO 45001 และแนวทางของกระทรวงแรงงาน โดยบูรณาการข้อมูลจากหลายฝ่าย

กระบวนการประเมินความเสี่ยง

บริษัทดำเนินการประเมินความเสี่ยงทั้งสำหรับโครงการใหม่และกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยมีกระบวนการดังนี้:

การประเมินความเสี่ยงสำหรับโครงการใหม่

ก่อนเริ่มโครงการใหม่หรือการลงทุนใหม่ บริษัทจะประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้านเพื่อป้องกันผลกระทบต่อพนักงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

กระบวนการประเมินความเสี่ยงสำหรับโครงการใหม่ประกอบด้วยการระบุอันตรายจากกระบวนการทำงาน วัสดุ เครื่องจักร และสภาพแวดล้อม ครอบคลุมความเสี่ยงทางกายภาพ สารเคมี และพฤติกรรมมนุษย์ โดยใช้เมทริกซ์ความเสี่ยงเพื่อจัดลำดับความสำคัญและกำหนดมาตรการควบคุม รวมถึงการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทยังบูรณาการความปลอดภัยเข้ากับการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้น (Safety by Design) โดยเน้นหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics) เช่น การใช้รอกไฟฟ้าลดภาระยกของหนัก การปรับรูปแบบการจัดวางลดการก้มหรือเอื้อมมือ และการเลือกใช้เครื่องมือช่วยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บตั้งแต่ระยะออกแบบ

การประเมินความเสี่ยงสำหรับกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้ว

แต่ละหน่วยงานมีหน้าที่ประเมินความเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ โดยฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กำกับดูแลและให้คำแนะนำ

แนวทางการดำเนินงาน:

  • หน่วยงานระบุอันตรายและประเมินความเสี่ยงในพื้นที่ของตนเอง
  • กำหนดมาตรการควบคุมและจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย
  • ฝ่ายความปลอดภัยฯ ตรวจสอบและให้คำแนะนำ
  • ทบทวนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการหรือเกิดอุบัติเหตุ

ตัวอย่างการประเมินความเสี่ยงในพื้นที่พิมพ์:

  • อันตราย: กลิ่นและไอระเหยจากสารเคมีในหมึกพิมพ์และสารทำละลาย
  • ผลกระทบต่อสุขภาพ: ระคายเคืองทางเดินหายใจ, อาการคลื่นไส้, การสัมผัสผิวหนัง
  • มาตรการควบคุม: ติดตั้งระบบดูดอากาศเฉพาะจุด, จัดทำและให้ความรู้เรื่องคู่มือความปลอดภัยสารเคมี (SDS), จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) เช่น หน้ากากป้องกันไอระเหย ถุงมือกันสารเคมี, ฝึกอบรมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย

การมีส่วนร่วมและการติดตามผล

บริษัทส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานผ่านการประชุมความปลอดภัยประจำเดือน การสำรวจความคิดเห็น การฝึกอบรมแบบมีส่วนร่วม และช่องทางแจ้งข้อกังวลด้านความปลอดภัย

ติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องโดยใช้ตัวชี้วัด เช่น อัตราการเกิดอุบัติเหตุ (LTIFR) และอัตราความรุนแรงของอุบัติเหตุ (ISR) มีการตรวจสอบภายในอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และรายงานผลต่อผู้บริหารและผู้มีส่วนได้เสียเพื่อสร้างความโปร่งใสและความร่วมมือในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย

การจัดการเหตุการณ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

มาตรการเชิงป้องกัน

กฎทองด้านความปลอดภัย 5 ประการ (Five Safety Golden Rules)

บริษัทได้กำหนดกฎทองด้านความปลอดภัย 5 ประการ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติพื้นฐานที่พนักงานทุกคนต้องยึดถือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด:

 image 3

บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับการป้องกันอุบัติเหตุและการดูแลสุขภาวะของพนักงานในทุกระดับ โดยยึดหลักการบริหารจัดการความปลอดภัยเชิงป้องกัน และการตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและยั่งยืน

การจัดการเมื่อเกิดเหตุการณ์

ระบบติดตามและรายงาน

บริษัทมีระบบติดตาม ตรวจสอบ และรายงานเหตุการณ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือเกือบเกิดขึ้น (Near Miss) เพื่อระบุสาเหตุเชิงระบบและปรับปรุงมาตรการควบคุม

ระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย (Safety Alert)

ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยเกิดขึ้น บริษัทจะจัดทำ Safety Red Alert หรือ Safety Alert ตามระดับความร้ายแรง เพื่อสื่อสารไปยังพนักงานทุกคนทันที ประกอบด้วยข้อมูล:

  • Where (สถานที่เกิดเหตุ) - ระบุพื้นที่และสายการผลิต
  • Who (ผู้เกี่ยวข้อง) - หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • What happen (รายละเอียด) - บรรยายเหตุการณ์อย่างละเอียด
  • How (ความเสียหาย) - ประเมินผลกระทบและมูลค่าความเสียหาย
  • Key Point (จุดสำคัญ) - สิ่งที่ต้องระวังและป้องกัน
  • Quick Response (การแก้ไขทันที) - มาตรการเร่งด่วนที่ดำเนินการ
  • รูปภาพประกอบ - แสดงสถานที่เกิดเหตุและสาเหตุ

    Safety Alert จะถูกเผยแพร่ผ่านบอร์ดประกาศ อีเมล และการประชุมประจำเดือน เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ

    การสืบสวนและดำเนินการแก้ไข

    ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหัวหน้างานจะสืบสวนอย่างละเอียด และรายงานผลต่อคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) และคณะทำงานบริหารความเสี่ยง ความยั่งยืน และบรรษัทภิบาล พร้อมดำเนินการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน

  • 5 Safety Golden Rules

    ชื่อโครงการเป้าหมายวิธีการดำเนินการผลการดำเนินการประโยชน์ที่ได้รับ
    บริษัทพนักงาน
    5 Safety Golden Rules1. สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยใหกับพนักงาน
    2. ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในระยะยาว
    1. วิเคราะห์ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ ในอดีต
    2. นำข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ทีได้จัดทำกฎพื้นฐานด้านความปลอดภัย
    3. นำเสนอแนวทางในการดำเนินการและ รายละเอียดของ Safety Golden Rules ให้ผู้บริหารอนุมัติ
    4. สื่อสารให้กับพนักงานให้รับทราบ
    สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยผ่านการรับรู้ Safety Golden Rules โดยมีการสื่อสารข้อมูลดังนี้
    - ห้ามพนักงานยื่นมือเข้าไปในเครื่องจักร ในขณะที่เครื่องจักรทำงาน
    - พนักงานที่ทำงานกับเครื่องจักร จะต้องผ่านการฝึกอบรมก่อน
    - สวมใส่อุปกรณ์ PPE ให้ถูกต้องเหมาะสม และ จะต้องอยู่ในสภาพดี
    - เว้นระยะห่างจากรถโฟล์คลิฟท์ อย่างน้อย 1.5 เมตร
    - ใช้งานกับ Cutter อย่างปลอดภัย
    - อัตราการบาดเจ็บจากการทำงานจนถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) 1.17
    1.  ลดการเกิดอุบัติเหตุในระยะยาว
    2. เพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมในการทำงาน
    3. ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
    4. ลดการสูญเสียเวลาในการทำงานในกรณีที่พนักงานมีการบาดเจ็บจากการทำงาน
    1. สร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน
    2. พัฒนาความรู้และทักษะด้านความปลอดภัย
    3. ส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานทีดีขึ้น

  • Drive to Safety

    ชื่อโครงการเป้าหมายวิธีการดำเนินการผลการดำเนินการประโยชน์ที่ได้รับ
    บริษัทพนักงาน
    Drive to Safety1.  ไม่พบพนักงานไม่สวมใส่หมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสารถจักรยานยนต์
    2. ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการส่งเสริมการสวมใส่หมวกนิรภัย
    3. หัวหน้างานผลักดันให้พนักงานเห็นความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย
    1. นำส่งสื่อรณรงค์ผ่าน Application Line groupบริษัท และ E-Mail โดยเน้นย้ำหัวหน้างานมีบทบาทกำกับควบคุมดูแล
    2. สุ่มตรวจการสวมใส่หมวกกันน็อกเป็นประจำทุกเดือน และ บันทึกข้อมูล โดยหน่วยงานความปลอดภัย และ ตัวแทน ผจก.ของแต่ละหน่วยงาน
    3. รายงานผลในที่ประชุม คปอ.รายงานจำนวนสถิติแผนกที่ตรวจพบ
    ข้อมูลการสุ่มตรวจ พบพันกงานที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ดังนี้
    ผู้ขับขี่ : 65 ครั้ง
    ผู้ซ้อน : 37 ครั้ง
    1. ไม่สูญเสียเวลาการทำงานของพนักงานที่มาจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
    2. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย
    1. ลดการเกิดอุบัติเหตุขั้นร้ายแรงหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
    2. ไม่เสียค่าปรับตามกฎหมายจราจร

  • ลดการเมื่อล้าจากการทำงาน (Ergonomics)

    ชื่อโครงการเป้าหมายวิธีการดำเนินการผลการดำเนินการประโยชน์ที่ได้รับ
    บริษัทพนักงาน
    ลดการเมื่อล้าจากการทำงาน
    (Ergonomics)
    จัดทำโครงการลดความเมื่อยล้าจากการทำงานอย่างน้อย 5 โครงการ1. ออกแบบแบบฟอร์มที่ใช้ในการสำรวจและประเมินก่อนการปรับปรุง โดยการใช้หลักการ การประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์
    2. สำรวจหน้างาน ค้นหาปัญหาและสอบถามผู้ใช้งาน
    3. สรุปปัญหาและแจ้งผู้เกี่ยวข้อง
    4. ติดตามการดำเนินการปรับปรุงจากปัญหาด้านการยศาสตร์
    5. ทำการประเมินหลังการปรับปรุง โดยการใชหลักการ การประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์
    จัดทำโครงการลดความเมื่อยล้าแล้วเสร็จ 6 โครงการ1.  ลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายทางการรักษาพยาบาล ค่าชดเชย ค่าแรง เป็นต้น
    2. เพิ่มผลผลิต เมื่อมีการปรับปรุงในสายการผลิตผู้ปฏิบัติงานมีท่าทางที่ดี ออกแรงหรือเคลื่อนไหวน้อย ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงาน
    3. ปรับปรุงคุณภาพ หากพนักงานเจ็บป่วย สามารถส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้เช่นกัน ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ลดลง
    4. เพิ่มการมีส่วนร่วมของบุคลากร
    5. สร้างวัฒนธรรมเพื่อความปลอดภัย การส่งเสริมความปลอดภัยสุขภาพของพนักงานจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงาน ภาพรวมในทิศทางที่ดีขึ้น
    1. ลดแรงในการทำงาน
    2. ลดอัตราการบาดเจ็บการเจ็บป่วยอันเนื่องมา จากการทำงาน

  • Zero Complain

    ชื่อโครงการเป้าหมายวิธีการดำเนินการผลการดำเนินการประโยชน์ที่ได้รับ
    บริษัทพนักงาน
    Zero Complain1. ไม่พบข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก
    2. ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
    1.  ลงชุมชนแจกแผ่นพับ และแบบสำรวจความต้องการ และความคาดหวังด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย
    2. รายงาน และติดตามผลการดำเนินงานด้านข้อร้องเรียนภายนอกในที่ประชุม คปอ.
    ไม่พบข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอก1.  ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
    2. ปฏิบัติตามกฎหมาย และมาตรฐานตามข้อกำหนดของลูกค้าหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
    3. ลดต้นทุน ค่าชดเชยค่าปรับที่เกี่ยวเนื่องจากข้อร้องเรียน เหตุเดือดร้อนรำคาญ
    มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ

  • Waste reduction and increase waste value

    ชื่อโครงการเป้าหมายวิธีการดำเนินการผลการดำเนินการประโยชน์ที่ได้รับ
    บริษัทพนักงาน
    Waste reduction and
    increase waste value
    ลดการส่งกำจัดขยะอันตรายกำจัดและเพิ่มมูลค่าของขยะที่ส่งไปกำจัด1. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาแนวโน้มการเลือกชนิดของขยะที่จะสามารถทำได้
    2. ประสานงาน Supplier และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    3. ติดตามผลและ Follow Up ผลการดำเนินการ
    จัดทำโครงการลดการส่งกำจัดขยะอันตรายและเพิ่มมูลค่าของขยะที่ส่งไปกำจัดได้ 4 โครงการดังนี้
    1. Waste to Energy ( เปลี่ยนวิธีการกำจัดของเสีย ) ลดค่าใช้จ่ายได้
    2. ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัด ภาชนะปนเปื้อนสารเคมี
    3. ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัด น้ำมันเก่าใช้แล้ว
    4. ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัด พลาสติกปนเปื้อนสารเคมี
    1.  ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะ
    2. ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการกำจัดของเสีย
    1.  มีส่วนร่วมในการช่วยการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
    2. สภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้นเนื่องจากลดปริมาณการจัดเก็บขยะอันตรายในพื้นที่

การฝึกอบรม : ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานผ่านหลักสูตรการทบทวนความรู้ประจำปี

            โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมามีพนักเข้ารับการอบรมร้อยละ 100

การฝึกอบรม : การฝึกดับเพลิงขั้นต้น และ อพยพหนีไฟ

she1

การฝึกอบรม : แผนป้องกัน ระงับเหตุสารเคมีหกรั่วไหล she3

การดูแลและป้องกันโรคระบาด

       บริษัทจะมีการออกมาตราการและข้อปฏิบัติตัวต่อสภานะการณ์โรคโควิค-19 รวมถึงสถานการ์โรคระบาดตามฤดูกาล เพื่อให้พนักงานทราบถึงวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดที่อาจเกิด

ผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัย

ตัวชี้วัดด้านความปลอดภัย

ตัวชี้วัด 2022 2023 2024 เป้าหมาย 2025
LTIFR* (Lost Time Injury Frequency Rate) - 0.23 0.23 0.15
ISR* (Incident Severity Rate) - 3.98 9.55 6.40
จำนวนการเสียชีวิตของพนักงานจากการทำงาน (Fatality) (คน) 0 0 0 0
จำนวนการเสียชีวิตของผู้รับเหมาจากการทำงาน (Fatality) (คน) 0 0 0 0

*หน่วย: ต่อ 200,000 ชั่วโมงการทำงาน

การวิเคราะห์และเป้าหมายการปรับปรุง

แม้ว่าบริษัทจะรักษา LTIFR ไว้ได้ที่ระดับต่ำอย่างสม่ำเสมอ แต่จากการวิเคราะห์พบว่า ISR เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 จาก 3.98 เป็น 9.55 แสดงให้เห็นว่าแม้จำนวนอุบัติเหตุจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีมากขึ้น

บริษัทจึงกำหนดเป้าหมายเชิงรุกสำหรับปี 2025 ดังนี้:

  • LTIFR: ลดลง 33% จาก 0.23 เป็น 0.15 (ต่อ 200,000 ชั่วโมงการทำงาน)
  • ISR: ลดลง 33% จาก 9.55 เป็น 6.40 (ต่อ 200,000 ชั่วโมงการทำงาน)

เป้าหมายเหล่านี้จะบรรลุผลผ่านมาตรการเชิงรุกอย่างจริงจัง ได้แก่ การวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึก การเสริมมาตรการในพื้นที่เสี่ยงสูง การฝึกอบรมเฉพาะทาง การปรับปรุงระบบตอบสนองฉุกเฉิน และการเพิ่มการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

การวิเคราะห์และมาตรการปรับปรุง

ตัวอย่างเหตุการณ์และมาตรการแก้ไข

เหตุการณ์ สาเหตุ มาตรการที่ดำเนินการ
พนักงานบาดนิ้วจากใบมีดตัดเศษสลิทขณะยื่นมือเข้าไปใต้ลูกลิ้งที่กำลังทำงาน ไม่ปฏิบัติตาม Safety Golden Rules, ไม่มีการระบุจุดดึงสลิทในขั้นตอนการทำงาน ปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน กำหนดจุดจับสลิทที่ชัดเจน, เพิ่ม VDO Training ผ่าน Data Center
พนักงานใหม่ถูก Cutter บาดนิ้วโป้งขณะตัดงานตัวอย่าง อุปกรณ์ไม่เหมาะสม, ขาดการควบคุมพนักงานใหม่ เปลี่ยนใช้กรรไกรแทน Cutter, กำหนดขั้นตอนควบคุมพนักงานใหม่, ทดสอบ PPE ที่กระชับ
ละอองน้ำ Condense กระเด็นเข้าดวงตาพนักงานท ไม่ระบุขั้นตอนการ Flow น้ำในระบบ, ขาดการสื่อสา ปรับปรุง WI ระบุข้อควรระวังการไล่น้ำ, อบรมผ่าน Data Center, กำหนดห้ามยืนบริเวณหัวเป่า

มาตรการปรับปรุงต่อเนื่อง

  • ทบทวนและปรับปรุงมาตรการในพื้นที่เสี่ยง
  • จัดฝึกอบรมซ้ำเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุและการจัดการสารเคมี
  • ติดตั้งป้ายเตือนและระบบกันลื่นเพิ่มเติม
  • รายงานผลต่อคณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปอ.) ทุกเดือน
  • เผยแพร่ Safety Alert ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์
  • วิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกด้วย Root Cause Analysis
  • เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงสูง
  • พัฒนาระบบรายงาน Near Miss เพื่อป้องกันเชิงรุก

การดำเนินการเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงป้องกัน และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พนักงานทุกคนทำงานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกวัน


การรับรองมาตรฐานสากล

บริษัทได้รับการรับรองระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ดังนี้:

  • OHSAS 18001 - ได้รับการรับรองตั้งแต่ปี 2008 แสดงถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการความปลอดภัยมายาวนานกว่า 16 ปี
  • ISO 45001:2018 - ได้รับการรับรองตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลล่าสุดด้านระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

การรับรองมาตรฐานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากล และสร้างความมั่นใจให้แก่พนักงาน ผู้มีส่วนได้เสีย และคู่ค้าทุกฝ่าย


หมายเหตุ:

  • LTIFR (Lost Time Injury Frequency Rate) = อัตราการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้หยุดงาน
  • ISR (Incident Severity Rate) = อัตราความรุนแรงของอุบัติเหตุ
  • PPE (Personal Protective Equipment) = อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
  • SDS (Safety Data Sheet) = คู่มือข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี