Skip to main content

2

เปลี่ยนขยะให้รีไซเคิลง่ายด้วย Mono Material

ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ถุงขนม อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมรับประทาน ถุงข้าว ถุงน้ำยาทำความสะอาด ฯลฯกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและความสะดวกสบาย ด้วยวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ผู้คนจึงพึ่งพาความสะดวกสบายจากบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูปมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันอากาศ ความชื้น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน บรรจุภัณฑ์เหล่านี้มักผลิตจากการนำวัสดุหลายชนิดมาประกบติดกันเพื่อให้ได้คุณสมบัติต่าง ๆ ที่ต้องการ แต่ความซับซ้อนของวัสดุเหล่านี้ส่งผลให้ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดปริมาณขยะจำนวนมหาศาลที่ยากต่อการจัดการ

จากข้อมูลทางสถิติที่น่าตกใจพบว่า ขยะพลาสติกทั่วโลกสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้เพียง 9%* เท่านั้น ตัวเลขนี้สะท้อนถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรง ส่วนขยะที่เหลืออีกกว่า 91% ซึ่งประกอบด้วยวัสดุหลายชั้น เช่น ฟอยล์เคลือบพลาสติก หรือพลาสติกที่มีชั้นวัสดุแตกต่างกัน มักถูกกำจัดโดยการฝังกลบหรือเผาทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ทั้งในดิน น้ำ และอากาศ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว

หนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพคือ Mono Material Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุชนิดเดียว นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องผ่านกระบวนการแยกชั้นวัสดุที่ยุ่งยากและสิ้นเปลืองพลังงาน ช่วยลดจำนวนขยะที่ไม่สามารถย่อยสลาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

ปัจจุบัน เทคโนโลยี Mono Material Packaging ได้รับการพัฒนาและนำไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคและธุรกิจ โดยยังคงรักษาประสิทธิภาพการใช้งานพร้อมกับลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่

  • ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร  เช่น ฟิล์มที่ใช้สำหรับห่อแพ็คขวดน้ำ อาหารแช่แข็ง หรือสินค้าจำพวก ready-to-eat ก็สามารถออกแบบให้เป็น Mono Material ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการหลังการใช้งาน เช่น การแยกรีไซเคิลหรือนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตอีกครั้ง
  • ส่วนในกลุ่มไม่เกี่ยวกับอาหาร เช่น ถุงหิ้ว ซองรีฟิลของใช้ในบ้าน ขวดแชมพู หรือฟิล์มห่อหุ้มสินค้าสำหรับจัดจำหน่ายหรือขนส่ง ทั้งยังครอบคลุมถึงการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น ถุงบรรจุปุ๋ย วัตถุดิบ หรือพลาสติกสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถออกแบบให้เป็นวัสดุชนิดเดียวเพื่อความสะดวกในการรีไซเคิล

person holding plastic jar

ด้วยความตระหนักถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรง TPBI ในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชั้นนำ จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น และมุ่งมั่นในการส่งเสริม Mono Material Packaging เพื่อช่วยลดขยะและเพิ่มโอกาสในการรีไซเคิล โดยดำเนินการผ่านแนวทางเชิงกลยุทธ์หลายประการ ดังนี้:

  • การร่วมมือกับคู่ค้า เพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ Mono Material ที่เหมาะสมกับลักษณะผลิตภัณฑ์ของคู่ค้าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ตลอดจนสร้างมาตรฐานร่วมกันในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
  • การพัฒนาโซลูชันบรรจุภัณฑ์จาก Mono Material เช่น ถุงและฟิล์มที่ผลิตจาก PE หรือ PP 100% ที่ยังคงคุณสมบัติด้านการป้องกันและการใช้งานที่ดีเทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์แบบหลายชั้นวัสดุ แต่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่า
  • การส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บรรจุภัณฑ์สามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น ลดการใช้สารเติมแต่งที่เป็นอันตราย และเพิ่มความเข้ากันได้กับระบบจัดการขยะที่มีอยู่

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม TPBI พร้อมเป็นผู้นำในการผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และลดปริมาณขยะพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในวันนี้จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อโลกของเราในอนาคต เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสิ่งแวดล้อมของเรา ตามวิสัยทัศน์ที่เรายึดมั่น Think Circular, Think Sustainable

*ที่มาจาก: https://blog.cleanhub.com/how-much-plastic-is-recycled