ในปัจจุบันที่เราหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทุกคนมักจะได้ยินคำว่า ‘Carbon Footprint’ หรือแปลเป็นไทยแบบทำให้งงว่า 'รอยเท้าคาร์บอน' ที่กลายมาเป็นคำที่คุ้นหูของเราหลาย ๆ คน แต่เคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมจึงใช้คำว่า 'รอยเท้า' แล้วจริง ๆ ความหมายมันคืออะไร?

ทำไมต้อง ‘รอยเท้า’

คำว่า 'รอยเท้า' เป็นคำเชิงเปรียบเทียบที่ใช้อธิบายถึงผลกระทบ หรือเครื่องหมายของการทิ้งไว้หลังจากการกระทำสิ่ง ๆ หนึ่งออกไป ซึ่งในบริบทของสิ่งแวดล้อมนั้น ก็หมายถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศโดยเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ จึงเป็นที่มาของคำว่า รอยเท้าคาร์บอน หรือ Carbon Footprint นั่นเอง

‘คาร์บอน’: ผู้ร้ายจากฝีมือมนุษย์

คาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งมีบทบาทสำคัญในวัฏจักรคาร์บอนของโลก อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน การขนส่ง และกระบวนการทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากกิจกรรมเหล่านั้นได้เพิ่มความเข้มข้นของ CO2 ในชั้นบรรยากาศอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

‘หน่วยวัด’ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เพื่อวัดผลกระทบของกิจกรรมของเราที่มีต่อสิ่งแวดล้อม นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งคำว่า 'รอยเท้าคาร์บอน' เป็นวิธีการวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่เกิดจากบุคคล องค์กร เหตุการณ์ หรือผลิตภัณฑ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

โดยหน่วยวัดค่าของรอยเท้าคาร์บอนจะวัดเป็นหน่วย กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (KgCO2e) หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1 กิโลกรัม ซึ่งก๊าซเรือนกระจกชนิดต่าง ๆ จะมีหน่วยวัดค่าเดียวกัน แต่จะวัดจากผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนเมื่อเทียบกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งการผลิตก๊าซเรือนกระจกมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น

1. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง: จากการกระทำของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อให้ความร้อน หรือการขนส่ง

2. การก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม: จากการผลิตไฟฟ้า ความร้อน หรือไอน้ำ

3. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ: จากกิจกรรมอื่น ๆ จากสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การขับรถยนต์ การเผาขยะบางชนิด หรือพืช เพื่อการเกษตร

ด้วยการคำนวณโดยใช้หน่วยวัดเป็นรอยเท้าคาร์บอนทำให้ ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น และเพื่อการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

มาช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนกันเถอะ

เมื่อเราสามารถคำนวณรอยเท้าคาร์บอนได้แล้ว เราก็สามารถนำกลยุทธ์ต่างๆ ไปใช้เพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้หลากหลายวิธีดังต่อไปนี้:

1. ลดการใช้พลังงาน: ใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน หรือหาแหล่งพลังงานสะอาดมาใช้ทดแทน

2. การคมนาคม: การเลือกการขนส่งสาธารณะ การใช้รถร่วมกัน หรือใช้ยานพาหนะไฟฟ้า หรือไฮบริด

3. ลดของเสีย: การรีไซเคิล ลดขยะจากอาหาร และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้เหลือน้อยที่สุด หรือเลือกใช้พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

4. การบริโภคอย่างยั่งยืน: การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

คำว่า 'รอยเท้าคาร์บอน' เป็นคำเปรียบเทียบที่ทรงพลัง ที่จะเตือนว่าการกระทำของเราจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับการทิ้งรอยเท้า เอาไว้บนสนามหญ้า ที่คงเหลือแต่ความเสียหายให้กับต้นหญ้า ที่จะทำให้เราเข้าใจ และมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

TPBI มุ่งเน้นการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อส่งมอบให้กับคนรุ่นหลังต่อไป รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของวิธีลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความยั่งยืน โดยหนึ่งในแรงมุ่งมั่นนี้ นอกจากการผลิตสินค้าที่ประกอบด้วยสัดส่วนของส่วนผสมของพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลแล้ว ก็คือ การริเริ่มโครงการด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นของ TPBI ผ่านในรูปแบบของ โครงการ WON ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมฟิล์มพลาสติกที่ใช้แล้วหรือพลาสติกที่ยืดได้เพื่อรีไซเคิลในแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากจะเป็นการลดการใช้พลาสติกใหม่แล้ว ยังช่วยลดการฝังกลบขยะพลาสติกเหล่านี้อีกด้วย - Think Circular, Think Sustainable

หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ โทร (+66) 02 429 0354 - 7.